Story: เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง 月下蝶影
Translator: ซิ่วจิ่น
Translator: ซิ่วจิ่น
Publisher: แจ่มใส
คับที่อยู่ได้ คับใจ...ก็ยิ่งต้องอยู่ให้ได้ ถ้าจะอยู่ที่นี่
ที่วังหลัง
ลายเซ็นของเยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง ยังคงไว้อย่างครบถ้วน
มีความเนิบ
มีความรักไม่สุด แค้นไม่สุด
ไม่ออกทะเล โครงกรอบชัดเจน เรียกได้ว่าชัดเจนจนเกินไป
ถ้าอาจารย์ต้องการให้คนอ่านเข้าใจความรู้สึกอึดอัด
ของการเป็นนางสนม ของการเป็นปลาสวยงามในวังหลวง
ของการเป็นสตรียุคโบราณที่ถูกจำกัดขอบเขต
ในกรอบ ในรั้ว ในบ้าน ในจารีตประเพณี
ในโอวาทของครอบครัว
ต้องเรียกว่าอาจารย์ประสบความสำเร็จมาก
อ่านมาหลากหลายเรื่องแต่ไม่มีเรื่องไหน
ที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึก อึดอัดกับความเป็นสนม
ได้เท่างานเขียนของอาจารย์
นางสนม มีชีวิตแบบนางสนม
กิน เดิน นอน เล่น ดูดอกไม้อยู่ในบ้าน
แถมด้วยสีสันของชีวิตที่ขึ้นๆ ลงๆ รวยบ้างจนบ้างรอดบ้าง
แถมด้วยมรสุมของการเอาตัวรอด ชนะบ้าง แพ้บ้าง
โดนเหยียบจมดิน ต้องลับฝีปากให้คมดั่งตะไกร
ต้องแปลประโยคอันซับซ้อนซ่อนเงื่อนให้เข้าใจ
ว่าอีกฝ่ายต้องการสื่ออะไรไม่พอ
คนพูดพูดจากที่เหนือกว่าก็หมายความแบบหนึ่ง
พูดจากที่ต่ำกว่าก็ความหมายแบบหนึ่ง
แถมใครโยนกลอง โยนเผือกร้อน โยนมันเผามา
ก็ต้องโยนกลับให้เป็นเสียอีก
ต้องเค้นสมองมาใช้งานยังกับอะไร
เรียกได้ว่าถ้าไม่ขี้เกียจเกินไป หรือไม่ถูกลืมเลือนมากไป
ผู้หญิงวังหลังนี่ไม่น่ามีใครเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์แน่ๆ
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าเกิดเป็นผู้หญิงสมัยเก่าไม่ง่ายเลย
เกิดเป็นสนมยิ่งไม่ง่ายยิ่งกว่า
ดังนั้นถ้าใครมองหานิยายหญิงๆ แนวใหม่ๆ
จะรักก็รักและไม่รักไปพร้อมๆ กัน
ไม่ใช่มาจี๋จ๋าให้ดูอย่างเดียว รักๆ แค้นๆ อย่างที่เรื่องอื่นมี
งานของอาจารย์ชิ้นนี้ก็แนะนำมาก
แต่ถ้าไม่ถูกจริตกับความเนิบของอาจารย์
ด้วยความที่อาจารย์ผลักให้ผู้อ่านได้ลิ้มรส
ว่าการเป็นสนมผ่านตัวหนังสือมันน่าเบื่อขนาดไหน
ก็อาจไม่เหมาะก็ได้ เพราะกว่าจะอ่านเรื่องนี้จบ
ใช้เวลาไปถึง 2 สัปดาห์เต็มน่าจะได้เลยทีเดียว
ต้องค่อยๆ อ่านทีละนิด เพราะอ่านไปก็ง่วงไป
ทำไมถึงอ่านไปง่วงไป ก็วนกลับไปเรื่องชีวิตสนมน่าเบื่อมาก
งานอาจารย์ก็สะท้อนความน่าเบื่อได้
ชัด เจน มาก
หนังสือแค่ 2 เล่ม ปกติถ้าถูกจริตมากๆ 2 วันก็จบล่ะ
ถามว่าเรื่องนี้ถูกจริตไหม ก็นับว่าโดนเฉียงๆ อยู่นะ
เพราะชีวิตนางสนมเดินไปช้า เลยยิ่งพาลให้อ่านช้าไปด้วย
ทั้งเรื่องวนเวียนอยู่แค่ในวังหลัง
ไม่มีออกไปข้างนอกเลยด้วยซ้ำ
ยิ่งอ่านยิ่งงงว่า เอาจริงๆ ฮ่องเต้นี่ ยุ่งวุ้ย
ตอกบัตรเข้างานราษฎร์ทุกเช้า
ตอกบัตรเข้างานหลวงทุกเย็น
ไม่มีวันหยุด
ไม่มีพักร้อน
ไม่มีท่องเที่ยว
เรื่องวนอยู่ในวังน่าเบื่อมาก
ฉากก็วนอยู่แค่ วังหลัง ซึ่งแตกออกมาเป็น
ตำหนักโน้นนี้นั้นนู้น อุทยาน สระบัว สวนท้อ
วนกลับไปที่ตำหนักโน้นนี้นั้นนู้น วนกลับมาสระบัว
แวะให้อาหารปลานิดนึง นานน๊านนนนที
มีฉากท้องพระโรงโผล่มา 5 วิ แล้วตัดฉับ
กลับไปตำหนักโน้นนี้นั้น และสระบัว...อีกรอบ
อ่านไปอย่างกับกลายเป็นนางสนมไปแล้วครึ่งตัว
ถามว่าเรื่องนี้จบ Happy Ending ไหม
Happy นะ ขอบอก
แต่ Happy อย่างที่ทั่วไปคิดกันไหม
ไม่นะ ขอบอก
เป็น Ending ที่น่าสนใจ
เพราะเรื่องมันจะรักไม่รักนี่แหละ
เลยกลายเป็นว่าสุดท้ายเหมือนกลายเป็น
เพื่อนร่วมทางที่ความรักมันโดนทำลาย
มอดไหม้ไปกับวังหลังหมดแล้ว
จบที่กลายเป็นเพื่อน (with benefits) ที่รักและเข้าใจกันมากกว่า
หรือจะเรียกว่ารักแสดงออกไม่ได้ฝ่ายหนึ่ง
และนางเอกสุดเรียล ที่เป็นเอกลักษณ์ของอาจารย์ก็ว่าได้
ทางด้านการจัดทำ ก็ขอติสำนักพิมพ์หน่อยเถอะ
ราชาศัพท์จะใช้ก็โปรดใช้
จะไม่ใช้ก็อย่าใช้
มันครึ่งๆ กลางๆ จะส้มก็ไม่ส้ม แอปเปิ้ลก็ไม่แอปเปิ้ล
มันไม่สวยนะ
ชื่อตำแหน่ง ถ้าจะทำตารางมาแนบให้แบบนี้นะ
ทับศัพท์ไปเลยจะสวยกว่ามา นี่รำคาญตำแหน่งยาวสามฉื่อมาก
ปกติก็มีทำงานแปลอยู่บ้าง ก็พอจะรู้ว่าคำไทยนี่
พอแปลออกมาคำมันจะเยอะกว่าต้นฉบับมากเลยนะ
แถมใช้คำฟุ่มเฟือยเยอะกว่าภาษาอื่นมาก
เช่นต้นฉบับมา 100 คำ
แปลอังกฤษจะออกมา 120 คำ
สเปน 120 คำ จีน 130 คำ ญี่ปุ่น 135 คำ อารบิก 140 คำ
ไทย...หึหึหึหึ ออกมา 170 คำไปเลยจ้า
แค่แปลปกติคำยังเยอะขนาดนี้
เลยสงสัยว่า แปลไทยเขียนจีนต่อ
ให้เปลืองตัวอักษรเล่นเพิ่มหน้ากระดาษเพื่อหน้ากระดาษเยอะๆ
จะได้ขายราคาเดิมโดยไม่ต้องลดหรือ?
ตารางตำแหน่งที่ทำให้มา
ก็มาโหว่โหว่ด้วยนะ งงมากเลย
อ่านจนจบถึงเข้าใจว่า อ้อ ตารางทำมาให้ตรงกับที่ใช้ในเรื่อง
ไม่ได้เน้นทำมาจากออริจินัลว่า หวงโฮ่ว แปลว่าอัครมเหสี ไรงี้
คือถ้าอันไหนจะใช้ตำแหน่งไทยซ้อนจีนในเรื่อง
ก็จะมีโผล่ไว้ในตารางให้ อ่านแล้วโคตรงง
แล้วที่ไม่โอเคหนักมากๆ คือ
ตำแหน่งหวงโฮ่ว ใช้ อัครมเหสี
แต่ตำแหน่งฮ่องเต้ ใช้ จักรพรรดิ์
เอิ่ม??? คือร่ะ
อ่านแล้วอารมณ์สก๊อยเข้าสิงเลยนะ
ตำแหน่งมันเท่าก็ควรใช้ให้มันเท่ากันไหม
ถ้าจะจักรพรรดิ์ ก็คู่กับจักรพรรดินี
ถ้าจะอัครมเหสี...ไม่รู้สิ มหาราชาไหม?
ชื่อตำหนักจะแปลไทยให้มันติดกลิ่นกะปิน้ำปลาทำไม
เอาตรงๆ คงความเป็นเป็ดปักกิ่งติ่มซำไว้เถอะ
ทำตารางเพิ่งอีกสักอันว่าชื่อตำหนักแปลว่าอะไร
หรือจะ footnote ก็ได้
และอีกอย่างที่น่าแปลคือ ชื่อตัวละคร
นักเขียนหลายคนใส่ใจชื่อตัวละครมากนะ
และบางทีก็มี hint มาให้ในชื่อด้วย
ถ้าอยากให้ผู้อ่านได้สัมผัสรสจีน ก็ควรมีตารางชื่อตัวละคร
หรือจะเป็น footnote มาด้วยคือดีมาก
ปกไทยออกแบบสวยมาก
ปกจีนอย่างฮาเลย
ถ้ากลัวทนความเนิบไม่ได้ ไม่ควรอ่านงานอาจารย์ติดกันสองเรื่อง
ให้เว้นไปอ่านเรื่องอื่นสักสองสามเรื่อง
ค่อยวนกลับมาอ่านงานอาจารย์จะสนุกกว่า
พูดจริงไม่อิงลิโพ
นี่จัดชายาผู้มีคุณธรรม แล้วมาต่อเรื่องนี้
บอกเลยเหมือนกินอาหารจีนมาหนึ่งเดือนติด
รู้สึกเลื่ยนมาก อยากได้น้ำชานางสนมมาล้างปาก
แต่ถ้าถูกจริต จัดไปเลยยยย
(ส่วนตัวชอบชายาฯ มากกว่านะ อย่างน้อยเขาก็รักกันไง)
(ส่วนตัวชอบชายาฯ มากกว่านะ อย่างน้อยเขาก็รักกันไง)
ปล. ถ้าซีเรียสเรื่องการแปล สำนวนการแปล
สองสำนักพิมพ์ที่แปลงานอาจารย์ออกมา
ยังแปลไม่ได้โดนสักอัน
หรืองานอาจารย์จะแปลยาก มีความเฉพาะตัวสูง?
No comments:
Post a Comment