
Legend of Desert Lover
(永遠の愛を、我が花嫁に)
Story : Takaoka Mizumi
Illustration : Jisouji Yukariko
Status : Thai Version by CC
Price : 250 Baht
----------------------------
รูปเล่ม
สำหรับเรื่องหน้าหนังสือที่สลับกันนั้นและภาพพินอัพ
ค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
ก็เห็นใจกันไปค่ะ เพราะหากจะให้โรงพิมพ์จัดการรับผิดชอบพิมพ์ใหม่
กว่าหนังสือจะเสร็จดูท่าจะช้ากว่านี้มาก
คงไม่เป็นการดีแน่สำหรับสำนักพิมพ์น้องใหม่
ในส่วนของการพิมพ์ผิด พิมพ์ตก การตัดคำ เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป
และทราบกันดีว่าหลีกเลี่ยงได้ยาก ซึ่งในเล่มนี้นับดูก็ยังไม่เกิน 20 คำดี
นับว่าใช้ได้ทีเดียวค่ะสำหรับนวนิยายเล่มแรก
แต่การวางเลย์เอาท์ การจัดความพอดีของบรรทัด
ควรให้หน้าหลังเรียบเสมอกัน
รวมถึงการเริ่มต้นย่อหน้านั้นควรจะให้เหมือนกันทั้งเล่ม
ตามบรรทัดฐานหนังสือไทย
ที่ทั้งย่อหน้าเนื้อหา และย่อหน้าคำพูด เรียงเสมอกัน
(ลองเปิดนวนิยายไทยดูสักเล่มก็ได้ค่ะ)
บอกตรงๆ ว่าเนื้อหาเข้ามา 1 วรรค
ในขณะขึ้นย่อหน้าใหม่แล้วช่องคำพูดกลับไปชิดติดหน้ากระดาษ
ทำให้ขณะอ่านปวดหัวมากเลยค่ะ อ่านไปนี่คิ้วย่นไม่รู้ตัว
กรอบตัวอักษรซ้ายขวาก็ติดชิดริมกระดาษเกินไป
ทำให้เวลาอ่านด้านหนึ่งนิ้วบัง
อีกด้านหนึ่งตักอักษรตกลงไปอยู่ในร่องเงาของหนังสือ
จึงเกิดการเสียอารมณ์ค่อนข้างมาก
ต้องแหกหน้าหนังสือมากขึ้นด้วยค่ะ (เสียดายหนังสือสวยๆ T_T)
โดยเฉพาะหน้าที่เป็นภาพประกอบ
ทางที่ดีควรทำให้เต็มหน้า โดยไม่มีเลขหน้าและกรอบแทรก
เพราะจะทำให้การโฟกัสกับภาพในหนังสือหลุดไปอยู่ที่อื่นนะคะ
แปลและเรียบเรียง
สำนวนในการแปลยังไม่ลื่นไหล
มีการจัดสลับคำในประโยคที่อ่านแล้วต้องทำหน้ามู่ทู่อยู่หลายจุด
ประเภท "อะไรกินข้าวเย็นนี้" แทนที่จะเป็น "เย็นนี้กินข้าวอะไร" น่ะค่ะ
และในอีกหลายที่ซึ่งอ่านแล้วสับสนว่า
ตกลงไดอาล็อคนี้ใครเป็นคนพูดกันแน่
คำที่งงมากเห็นจะเป็น 'โตเบ' ที่ในหนังสือใช้
เป็นอักษรภาษาอังกฤษว่า 'Thobe' ทั้งๆ ที่คำอื่น
เช่น กัฟฟีเย กลับเขียนคำอ่านออกเสียงเป็นภาษาไทย
ยิ่งอ่านเจอก็ยิ่งสงสัยว่าทำไมถึงมีแต่คำนี้
นี่ลงเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งอ่านไปก็ขัดอารมณ์ไป
ชื่อเรื่องที่เห็นเขียนถึงในทอล์คข้างหลังว่า 'Love in the Mist'
ค่อนข้างจะเป็นชื่อที่เหมาะกับเนื้อเรื่องมากอยู่
เพราะเกิดเหตุจากความไม่เข้าใจกัน ไม่พูดคุยกันของทั้งสองฝ่าย
เหมือนแต่ละคนก็คลุมเครืออยู่ในหมอกบางๆ ที่ตัวเองเอามากั้นกลางไว้
ผิดกับ 'Legend of Desert Lover' ที่ชื่อเรื่องดูจะใหญ่โตเกินตัวมากไป
เนื้อหา
พล็อตเรื่องเป็นประเภททะเลทรายชนิดสแตนดาร์ท
สามารถเดาเรื่องได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
โดยที่ไม่ได้มีจุดที่ ปัง! กระทบใจ หรือทำให้จำเรื่องนี้ไปได้อีกนาน
ผู้แต่งยังต้องพยายามอีกมาก
ที่จะทำให้เรื่องธรรมดาๆ กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
น่าติดตาม จนเกิดความประทับใจได้ค่ะ
หรือดีไม่ดีนี่อาจจะเป็นผลงานแรกๆ
ฝีไม้ลายมือเลยยังดูเด็กๆ อยู่
ก็ภาวนาให้ผู้แต่งสามารถพัฒนาตนเองได้ดีกว่านี้ค่ะ
ตัวละคร
โทโมยูกิที่เป็นตัวเอกของเรื่องเล่นเอาเสียตัวละครอื่นๆ ดูฝ่อหมด
แม้กระทั่งพระเอกที่เหมือนตัวประกอบอย่างอัลซิล
เพราะค่อนเรื่องของหนังสือ อิงเอาความคิดด้านของโทโมยูกิเป็นหลัก
แต่ดูจะเป็นตัวละครที่ไม้หลักปักขี้เลนอยู่พอสมควร
ติดจะน่ารำคาญด้วยซ้ำ ที่อะไรๆ ก็จะหนีท่าเดียว
ไม่คิดจะปะฉะดะกันให้เสร็จเรียบร้อย
แม่นางซามีรายังแมนกว่าอีก
ในขณะที่อัลซิลซึ่งเป็นพระเอกนี่
บทพี่แกมากเท่าๆ กับตัวประกอบเลยทีเดียว
แค่เอาบทตัวประกอบสักสองตัวมารวมกันนี่ก็มากกว่าของอัลซิลแล้วค่ะ
อีกทั้งยังเป็นพระเอกที่ทะเลทรายจ๋าสุดๆ
หน้าหล่อ พ่อรวย ปากหนัก ช่างบังคับ
ชอบกักขัง เอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร ครบสูตรโรงเรียนเบดูอิน
จะเห็นมีข้อดีหน่อยก็ตรงที่เมียสำคัญกว่างานนี่แหละ
ภาพประกอบ
สวยค่ะ สวยมากๆ ไม่มีที่ติ
ตั้งแต่ภาพปกยันหน้าสุดท้าย
จะติดใจอยู่นิดเดียวก็คือยังไม่ได้เห็นพระเอกลืมตาเต็มๆ เลยสักครั้งเดียว
กี่รูปๆ ถ้าไม่ตาปรือ ก็หน้านิ่วคิ้วขมวดจนตาหยี หรือไม่ก็หลับตาไปซะนี่
ความประทับใจ 6/10 ค่ะ หักรูปเล่มนี่การใหญ่เลยค่ะ
No comments:
Post a Comment