Meteor Island อธิษฐานดาวตก
Story : ไป๋อวิ๋น
Illustration : Lanny
Status : Thai Version by FU
Price : 250 Baht
---------------------
กว่าจะมาเป็นเรื่อง...
เซียวสือนี่ดูคล้ายๆ จะเป็น เคะ ที่บอบบาง
ด้วยรูปลักษณ์ อุปนิสัย และการกระทำ
แต่ด้านจิตใจนี่นับว่าเป็นตัวละครที่แข็งแกร่งที่สุดในเรื่องเลยก็ว่าได้
(ถ้าไม่นับหัวเวยเวย)
เริ่มต้นจากที่รู้ว่าชอบผู้ชายมาแต่เด็ก
ตัวตนภายในเขาก็ยอมรับได้อย่างดีว่ารักคือรัก
ผ่านมากี่ปี เจอกันอีกกี่ที ก็เข้าใจและยอมรับความเป็นตัวเองได้ยอดเยี่ยม
แม้การกระทำและความไม่ทะเยอทะยานจะไม่น่าพิศมัยแลดูขี้ขลาดก็ตาม
เซียวสือก็ไม่เคยปฏิเสธตัวเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ที่เด่นชัด คือหนักแน่น และกตัญญู
ถ้าเป็นคนจริงๆ หลายคนคงทิ้งแม่ไปตามยถากรรมแล้ว
(มีวงเวียนชีวิตมาฉายให้เห็นทุกวัน)
ส่วนนี้มีมากพอๆ กับความเจ้าทิฐิและรักเกียรติที่กินเข้าไปไม่ได้เเหลือเกิน
รู้เลยว่าเจ้าตัวยึดคุณธรรมศีลธรรมได้มั่นคงน่าดูชม สมกับเป็นคนเอเชียดีค่ะ
และอีกแห่งที่กระทบใจ...
คือตอนที่เกิ่งเฉินจือพูดกับเซียวสือก่อนจากกันว่า
"ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่เคยถามฉันเรื่องเคอฉุนเลยแม้แต่คำเดียว"
ถึงจะมีประโยคก่อนหน้าที่มีความหมายคล้ายๆ กัน
แต่พยานปากชัดเจนจากสายตาคนอื่นนี้
แสดงความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเซียวสืออย่างแท้จริง
กลายเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของฮิฯ มากๆ
เหมือนความรักจากแม่นภาหรือพระแม่ธรณีที่เฝ้าดูแลเราอยู่เงียบๆ
พร้อมทั้งมอบความหมายที่เข้าใจตรงกันว่า ความรัก...ก็เท่านี้เอง
ไร้การเอาเปรียบ ไร้การเสแสร้ง
ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว
ความรักพร้อมเสมอที่จะเข้าใจ
ทั้งทนทานต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้น*
* ตัดตอนบางส่วนจาก A Walk to Remember / Nicolas Sparks
ถึงร่างกายจะไม่กระทำตาม
แต่ถ้าทาบปากไว้บนเนื้อหัวใจของเซียวสือได้
ทุกอย่างคงเปิดเผยออกมาหมด
ทีนี้พอลองมาดูด้านเกิ่งมู่จือ ก็เจอ พระเอก ต้นฉบับ
รวยล้น หล่อเลิศ หน้าร้าย ใจดี ปากหนัก ขี้เหงา หึงดะ และหื่นเป็นฟอนไฟ
เฮ้อ...ธรรมดา ไม่มีอะไรให้พูดถึงอีก
กว่าจะรู้ตัว กว่าจะมั่นใจ เซ่อ โง่ บ้า วิ่งมาเอาตอนจบ
ชื่อเรื่อง ดูไม่เอาอ่าวเลยแม้แต่น้อย ในความรู้สึกฮิฯ
ยิ่งอ่านยิ่งเห็นชัดว่าเป็นชื่อเรื่องสำหรับเกิ่งเฉินจือกับเคอฉุน
กว่าจะมาเป็นเล่ม...
T_T เห็น ภาพประกอบ แล้วอยากจะร้องไห้ ภาพสวยก็จริงค่ะ
แต่ทุกตัวที่วาด จากอายุ 25 - 35
กลายเป็น 5 ขวบกันหมดเลย TT_TT
ภาพไม่เหมาะจนพูดไม่ออกตั้งแต่เห็นปกแล้ว
สู้ไม่มีภาพเสียจะดีกว่า
เพราะคนเราพอเห็นอะไรเป็นครั้งแรกแล้ว
จะเกิดอาการ imprint ดุจอีแร้งเจาะไข่
ยากที่จะกลับไปค้นหาจินตนาการของตัวเองได้
ฮิฯ พยายามเท่าไหร่ เซียวสือในแบบที่ตัวเองวาดไว้ในหัว
ก็ไม่ยอมโผล่พ้นน้ำขึ้นมาสักที
กลวิธีในการดำเนินเรื่อง เป็นแบบบุคคลที่ 3 มองเข้ามา
อันเอนหนักไปฝ่ายเซียวสือจนเกือบเป็น one story teller อยู่แล้ว
ฮิฯ ไม่ชอบพวกเอาบุรุษที่ 1 มานั่งเล่าเรื่องให้ฟังเลยค่ะ
เป็นมานานแล้ว และจะพยายามเลี่ยงทุกเรื่องเท่าที่เป็นไปได้
โดยเฉพาะเรื่องที่เขียนออกมาเป็นจดหมายนี่เกลียดนักแล
เพราะมันแทบจะไม่เปิดช่องให้เราได้กรี๊ดกร๊าด
กับความนึกคิดของฝ่ายตรงข้ามได้เลย
หรือถ้ามีเขียนถึงก็จะน้อยมากจนน้อยที่สุด (ยกเว้นการเขียนชนิด parallel)
และแทบทั้งหมดจะเขียนในมุมมองของฝ่ายรับ/ฝ่ายหญิงอีกต่างหาก
กว่าจะเฟ้นหาเรื่องที่ฝ่ายชายมาเล่าๆๆๆๆ เองได้เจอสักเรื่องนึง
ยากเสียยิ่งกว่าอินเดียน่าโจนส์ตามล่าส่ำสมบัติ
แม้ว่าพอพลิกไปด้านหลังเรื่อง
จะเจอ ตอนพิเศษ ที่ฝ่ายชายมานั่งเล่าให้ฟัง
แต่ด้วยทำนองที่เกิ่งเฉินจือเล่ามา
อิมเมจผู้ใหญ่กลับแตกสลายหมดกลายเป็นเด็กม.ต้น
มานั่งเขียนโศลกรำพันอยู่บนบล็อกซะงั้น --"-- ไม่ถูกอกอีกเหมือนเคย
(อินี่จะเอาใจยากไปถึงไหน๊ T_T)
font ชื่อเรื่องภาษาไทยนี่เจ๋งกระเด้งไปเลยค่ะ
แค่ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษดาวตกเป็นฝอยก็ชอบมากอยู่แล้ว
แต่นี่ถึงกับออกอุทานมาดังๆ ว่า 'ไปหามาจากไหนนะนี่'
สรุปแล้ว...
ไม่ประทับใจชื่อเรื่อง กับภาพประกอบมากค่ะ
แต่เนื้อเรื่องก็ชวนฝันจนลืมไม่ลงเช่นกัน