17 May 2009

Passion in Your Eyes


Passion in Your Eyes
( ヤバイ気持ち )


Story : Maki Kazumi
Illustrator : Yukine Honami

Mangaka : Yukine Honami
Status : Thai Version by PX (Novel) , LB (Comics)
Price : 250 Baht (Novel) , 35 Bath (Comics)


--------------------------




ปก ยั่วเย้าและยั่วยวนชวนให้ซื้อมากค่ะ

ตอนนี้จัดอันดับให้เป็นปก top 10 ในใจเลย

หมาหวงก้างอย่างไม่ต้องบอกเป็นคำพูดอย่างนี้ โดนใจนักแล

(แทบจะหันไปเลียปกแล้ว ดูมือซิ...มือ...อ๊างงงง
อยากถูกทรีตแบบนี้มั่ง)

อ่านมากี่เล่มๆ ก็ชอบ artwork ของ phoenix
แต่ pin up นี่ เฉยจังเลยค่ะ
นึกว่าจะได้เห็นอะไรบิวท์ๆ หน่อยเชียว
กรอบชื่อเรื่องบนหน้าปก ที่เป็นสีลาเวนเดอร์
ปลายๆ จะมีโหว่ๆ 2 จุด ตอนแรกนึกว่า...
โธ่ ถังเอ๋ย ปี๊บเอ๋ย กระป๋องเอ๋ย เลือกไม่ถ้วนถี่อีกแล้วสิเรา
แต่ก็เหลือบไปเห็นส่วนล่างที่ balance กันถึงบางอ้อ
เอ๊ะ! ก็สวยดีนี่นา
เหมือนจงใจทำให้เป็นหยดน้ำค้างบนก้านไม้ ดูมีเสน่ห์
ว่าแต่ที่คั่นหนังสือทำไมเป็นตัวประกอบละคะ 555


การแปล ไม่ใช้คำเวอร์หวือหวา



สมกับเป็นเนื้อเรื่องที่ดำเนินโดยเด็กมัธยมปลายดี


แต่ก็ไม่ได้ลื่นไหลเหมือนเรื่องที่แล้วๆ มานะคะ

คล้ายๆ กินพุดดิ้งที่มีไส้ลูกพลัม เจอแล้วเป็นต้องเคี้ยว

พบคำผิดในหน้า 34 หนึ่งคำ ย่อหน้าท้ายๆ






ชื่อเรื่อง ..ชื่อเรื้องงงง...ชื่อเรื่อง

ทราบไหมคะ หนังสือใหม่ของช่วง 3 เดือนนี้ที่เราซื้อ...

เอามาเรียงติดๆ กัน...สามารถสรุปผลการทำลองได้ดังนี้
- Untouchable Love [SG]
- Love and Passion [SG]
- Passion in Your Eyes [PX]
- Night Passion [LU]
ยิ่งถ้าเอาทั้งหมดมาเรียงกัน
สวัสดีความเศร้าเลยค่ะ
ล้วนแล้วแต่ love ไม่ก็ passion ซะ 70% TUT ยังกับเล่นต่อคำ
ก็เข้าใจว่าตั้งชื่อเรื่องมันยากเย็นแสนเข็ญ

ยิ่งตั้งให้ตรงกับความหมายเดิมก็...

และถ้าตั้งไม่ดี มีหวังคงกลายเป็นนิยายโรมานซ์

หรือออกแนวเกาหลีแน่ๆ เลย

ดังนั้น...ขอแนะนำว่า...ช่วยไม่ได้ค่ะ ^^" เอาใจไปไว้ช่วยละกันนะคะ




เนื้อเรื่อง สารภาพว่า...ไม่ชอบนิยายของเด็กๆ ค่ะ ยิ่งพวกนักเรียนมัธยมนี่
ปรกติจะไม่อ่านเลย เพราะรู้ถึงข้อจำกัดในรายละเอียดของเนื้อเรื่อง
ที่จะหวือหวา เวอร์เกินวัยวุฒิไม่ค่อยได้ อย่างการกระทำหรือคำพูด
ถ้าสำบัดสำนวน ทันคนเกินเหตุก็จะไม่ค่อยรู้สึกว่าเป็นเด็ก
...แต่ถ้าอย่างมหาลัยนี่โอเคเลย



ทว่า...การที่เรื่องนี้มุ่งเน้นประเด็น "เห็นแล้วมีอารมณ์" ได้ดี

เจาะเอาความรู้สึกเพียวๆ ที่ก่อเกิดมาบรรยาย

สามารถหักลบกับความชอบส่วนตัวของเรา

ข้างบนไปได้เยอะทีเดียว ยิ่งบนพ่อแง่แม่งอนข้างหลัง

พล็อตเน่าๆ ที่เก็บใจจากเราไปได้แทบทุกเรื่อง *w* เนี่ยหอมหวลนักแล


บทอัศจรรย์ห้วนไป...มองไม่เห็นถึงความปะติดปะต่อของเรื่องบนเตียง
เหมือนเรื่องดำเนินไปแค่ ถอดเสื้อ > จูบ > เสียบ > นอนหอบแฮ่กเกยกัน
ไม่ชอบเลย นับว่าผู้แต่งควรจะพัฒนาด้านนี้อีกหน่อย
(น่าเสียดายที่นั่งพูดอยู่ตรงนี้ เสียงกลับดังไม่พอ)


ตัวละคร
เคะ นิ่ม...เป็นประเภทที่ดูน่ารำคาญ อ้ำๆ อึ้งๆ เหมือนผู้หญิง เฮ้อ
ที่ต้องการอ่านคือ ชxช น้า...ไม่ใช่ ชxhalf
แต่เดี๋ยวก่อน...ป้าซาร่า
ใดใดในโลกล้วนมีข้อยกเว้น ถ้าเป็นเคะนิ่ม แล้วใส่แว่นนี้

จะขอกระโจนเข้าตะปบเลยค่ะ

ตัวอย่างเช่น น้องเคะใน treat me gently please ของ อ.yamada d nekota

นิ๊มมม นิ่มก็จริง แต่ไร้เดียงสาได้น่ารักมาก ให้อภัยค่ะ


ส่วนพ่อเมะ...หลงตั้งแต่เป็นมือที่ปกแล้ว (พอดีเป็น hand mania ^^)
นี่ถ้าใส่แว่นอีกหน่อย จะขอซื้อ 2 เล่มเลยนะเนี่ย!

(เขียนตกไปค่ะ เป็น hand & glasses mania ต่างหาก 555)





ภาพประก อาจารย์ honami เหมาะจะวาดการ์ตูนต่อไปดีแล้วค่ะ
สังเกตมาหลายเล่มแล้ว

รู้สึกว่าถ้าอาจารย์ท่านไหนที่วาดลายเส้นไม่คมกริบ

คล้ายแนวภาพร่าง สกรีนโทนเสียดายใส่ ดูเรียบง่าย สบายๆ

หรือบางคนวาดออกแนวเส้นเถื่อน รุนแรงไปเลย

พวกนี้วาดภาพประกอบนิยายไม่เร้าใจอย่างแรงค่ะ
(แต่พอวาดการ์ตูนก็เหมาะอย่างหาอะไรเปรียบไม่ได้ *////*)

หารูปกินใจได้น้อยในรูปจำนวนน้อย ทำเอา sad ไปพอตัว
มันไม่ทำให้รู้สึกอย่างจ้องนานๆ เอาเสียเลย
อย่างหน้า 59 กับ 115 เนี่ย...ฉุนขึ้นเหมือนวาซาบิพลุ่งขึ้นจมูกค่ะ !!!
ไม่วาดก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะฉากนี้ ภาพก็น้อยอยู่แล้ว
น่าจะ...วาดไอ้ที่มันระทึก ทิ่มแทง บาดใจกว่านี้หน่อย
อย่างตอนเกี่ยวก้อยสัญญาว่าจะมีอะไรกัน
ตาเรียวจิต้องทำหน้าน่ามองแน่ๆ เชียว >"<


ราคา แพงไปหน่อยค่ะ สำหรับหนังสือเล่มบางกว่าเดิมเกือบ 50 หน้า

อันที่จริงแบบนี้น่าจะทำของแถมเพิ่มนะคะ เช่น ที่คั่นหนังสือน่าจะทำตัวคู่เอก

กับอีกหนึ่งเพื่อน สุดยอดตัวประกอบอดทนให้ น่าจะพอทำใจได้ในระดับหนึ่ง




ภาคผนวก ขอขำซักกิ๊กเถอะค่ะ น่ารักจริงๆ (น่ากินอีกต่างหาก)
เรามั่นใจค่ะว่ากว่า 80% ของนักอ่านย่อมรู้จักแทบทั้งหมดนั่น
เพราะคงมีไม่กี่คน (แทบจะไม่มีด้วยซ้ำ)

ที่จะไม่อ่านการ์ตูนก่อนมาอ่านนิยาย

ดังนั้นที่ว่าน่ารัก จึงเป็นความสัตย์จริง

เราพึงพอใจในความพยายามหาภาคผนวกมาใส่เข้าไป

ในทุกๆ เล่มที่ทางสำนักพิมพ์เป็นผู้จัดทำ

เพื่อให้หนังสือมีความครบสมบูรณ์

แม้จะไม่มีอะไรในกอไผ่เลยก็ตาม

และ...มันก็ฟูดีจริงๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นครอกเกะทอดพองๆ

หรือเบเกอรี่ที่ฟูด้วยยีสต์ทำขนมปัง อมยิ้มเลยค่ะ ;)



เพิ่มเติมนอกประเด็น

เกี่ยวกับชื่อ phoenix

ตอนอาบน้ำลันล้าไปนี่ พึ่งจะปิ๊งขึ้นมาอย่างฉับพลันทันที

ว่าช่างเป็นชื่อที่เหมาะเหม็งอะไรอย่างนี้หนอ

ยังกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เกิดขึ้นเพื่อชื่อสำนักพิมพ์นี้อย่างไรอย่างนั้น
ถึงโดนเผาตายกลายเป็นเถ้า ต้องหยุดขาย โดนเก็บ หยุดออกเรื่องใหม่
แต่สุดท้ายเราก็ยังมาร่อน ร้องบรรเลงเสียงเพลง y ต่อไปได้
เหมือนฟีนิกส์เกิดใหม่จากขี้เถ้าไม่มีผิด

ใครเป็นคนเสนอชื่อคะเนี่ย...น่าตีนัก! ^^
คิดได้เอาฤกษ์เอาชัยได้เยี่ยมยอด
อีกทั้งโลโก้รูปนกไฟ เห็นแล้วนึกถึง...curse of golden flower
ราวกับฮ่องเต้เหินลงจากบันได

กางแขนอ้วดอ้างความยิ่งใหญ่ อำนาจ บารมี

ชายฉลองพระองค์ใต้สองแขนพลิ้วไหวอวดลวยลายอลังการ

อู้ววว...เมนต์ได้เวอร์มาก




เขียนมารอบนี้ออกจะละเอียดระดับนาโนไปนิด
เพราะกระแดะเขียนก่อนอ่านค่ะ เลยมีเวลาไถลดูโน่นตินั่นมากหน่อย
ไม่กล้าอ่านเพราะตอนนั้นดึกพอดูแล้ว

กลัวจะนอนไม่พอ และวันรุ่งขึ้นต้องตื่นเช้า

(ถ้าเราขับรถตอนง่วงๆ จะครบความน่ารังเกียจทุกเม็ดเลยค่ะ

ทั้งเหยียบ ทั้งประมาท เบรกกระชั้น ปาดซ้าย ป่ายขวา ไม่ให้ใครแซง

หรือเข้า-ออก หน้าตัวเอง U_U'' แย่สุดๆ)

รู้สึกจะเป็นคอมเมนต์ที่ยาวขึ้นกินเนสเรคคอร์ดส่วนตัวเลย
นี่ล่ะโทษของการเขียนก่อนอ่าน 555

พิมพ์ถึงบรรทัดนี้นี่รู้สึกเลยว่า...
เฮ้อ! ลอกจากกระดาษมาหมดล่ะ
อยากให้ภายใต้นิ้วมือของคนเรานี่มีคีย์บอร์ดล่องหนทุกที่ทุกเวลาจัง
เพราะนี่เขียนก่อน...แล้วค่อยเอามาเพิ่ม (กลัวอารมณ์หด)
นอกจากเมื่อยมือแล้วยังปวดตา

(ลายมืออาถรรพ์ สวรรค์ถีบส่งชัดๆ เลยค่ะ)

อีกอย่างคือพิมพ์เร็วกว่าเขียนเอาซะอีก

14 May 2009

Immortal of Romance




Immortal of Romance ,
Enthusiast of Romance
( 神官は王に愛される ,
神官は王を狂わせる ,
神官は王を恋い慕う)
Story : Tamaki Yoshida
Illustrator : Hinako Takanaga
Status : Thai Version by CB (Volume1-2)
Price : 250 Baht / issue
--------------------------
เรื่องเก่าเรื่องแก่ แต่เพิ่งจะได้อ่าน...




แปล ค่อนข้างดีนะคะ ถ้าคิดถึงรายละเอียดถี่ยิบที่ผู้แต่งเขียนมา
ดูจากศัพท์แสงคงต้องใช้เวลาเลือกคำอยู่เหมือนกัน



ใคร๊ ใครจะไปคิด...เห็นปกแบบนี้เห็นนักวาดคนนี้...
เรท มันก็น่าจะประมาณ PG ให้ไม่เกิน 15
เอ้าอ่านไปอ่านมา...อู้ววว เรท 18 ซะนี่ *q*
มีทั้งแอบข่ม มีทั้งโร้ดโชว์นี่ถ้าเคะไม่เป็นตัวนิ่มจะกลายเป็นเรปโชว์เลยทีเดียว



พื้นเรื่อง ปูฐานได้แน่น...จนดีเกินไปอ่านๆ วางๆ ตั้งหลายรอบ
กว่าจะอ่านจบยิ่งตอนแรกๆ ยิ่งเบื่อมากเพราะเป็นเรื่องปูพื้นล้วนๆ
เกี่ยวกับอาณาจักรแฟนตาซีที่กำหนดขึ้น



เคะ ก็ตัวนิ๊มนิ่มเหลือเกิน ทั้งอ่อนแอ ทั้งขี้แย ขี้งอน
คิดไปเองสารพัดจนเหมือนผู้หญิงไม่มีผิด
ดูใจแข็งก็แค่เมื่อตัดสินใจให้ตัวเองโดนตอน ที่ค่อยนับว่าชายชาญหน่อย
แต่หลังจากที่เมะมาห้ามไว้ได้ ก็ค่อยวิ่งหนีซะเรื่อยอย่างกับหนังอินเดีย
(ดีว่าไม่มีเพลงคั่นกลาง หนีไปร้องไป)



ฟอนต์ ตัวอักษรก็คิดว่าเล็กเกินไปหน่อยค่ะอ่านแล้วปวดหัว @..@


รวมความประทับใจ 6.5 / 10
(หมั่นไส้เคะอย่างแรง กับ เนื้อเรื่องน่าเบื่อเล็กน้อย)

I Can't Even Breath without You

I Can't Even Breath without You( きみがいなけりゃ息もできない )

Story : Yuri Eda
Mangaka : Enjin Yamimaru
Status : English Scanlation by Dangerous Pleasure
Thai Version by SN
Price : 170 Baht


---------------------------



นิกิน่ะ เหมือนกับตุ๊กตากระบอกเลย
สร้างแกนในด้วยโชจิ
สร้างแขนขาด้วยโชจิ
สร้างใบหน้าด้วยโชจิ
ขยับได้ก็ด้วย...โชจิชัดๆ

ในตอนแรกรู้สึกเหมือนเด็กทารก
แต่ไปๆ มาๆ คล้ายจะเป็นเอเลี่ยนที่เพิ่งจะบินมาถึงดาวโลกมากกว่า
ทุกครั้งที่คุยกับคนอื่นซึ่งไม่ใช่โชจิ
ก็จะกลายเป็นคนแปลกประหลาด
ที่เดินออกมาจากยานแม่ของตัวเองแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่
เห็นกองฟางสีเหลืองก็นึกว่ามีค่าเท่าทองนั่นล่ะ

ตอนที่ค่อยๆ เปรียบเทียบแป้งเย็นซึ่งหมด
กับที่คิดว่าใช้ความพอใจของโชจิจนหมด
และค่อยๆ เรียกโชจิ โชจิ นั้น...เหมือนกับลานรอบสุดท้ายของตุ๊กตาไขลาน

สมกับที่เป็นผลงานของอาจารย์เอ็นจิน ยามิมารุ
ถ่ายทอดได้เหมือนกับอ่านนิยายของอาจารย์ยูริ เอดะ เอง
ที่ยอดเยี่ยมเห็นจะเป็น...
เรื่องที่ทั้งคู่บอกรักกันโดยที่อีกฝ่ายยังไม่เข้าใจคำว่ารักแม้แต่นิดเดียว
และไม่มีคำว่ารักเล็ดลอดออกมาสักคำเดียวเช่นกัน
นานแล้วที่ไม่ได้เสียน้ำตาให้กับการ์ตูนค่ะ

สรุปคือ...ถ้ายอมพลาดไปได้...ฮิฯ 
คงต้องเก็บป้ายสำนักสาววายลงแล้วค่ะ

หิมะแดง




หิมะแดง
( 絳雪 )

Story : อวี้หยาง
Illustrator : อี้จิ้ง
Status : Thai Version by DKR
Price : 450 Baht / pack


--------------------------

ด้านเนื้อเรื่อง



อันที่จริงเห็นปกกับเนื้อเรื่องบทแรกๆ แล้ว
ก็หวังว่าเล่มนี้จะบู๊กันดุเดือด ชิงไหวชิงพริบกันสนั่น
ทำร้ายหัวใจชนิดฉีกกระชากขาดกระจุย
(ยิ่งแอบได้ยินสปอยล์เกี่ยวกับสาลี่มาด้วย อิอิ)
ก่อนจะมานั่งสมานแผลกันในตอนท้าย
กลับกลายเป็นสู้กันพอให้ได้ขยับตัวเสียบ้าง ที่เหลือหวานอีก 70%
นับว่าผู้แต่งเขียนบทพลอดรักกันได้ดีทีเดียว เพราะแม้จะมีเยอะ(มวากกก)
แต่ก็ไม่ได้เลี่ยนหวานน้ำตาลอายเหมือนอีกหลายเรื่อง
ออกแนวน่าอ่านและอ่านได้เรื่อยๆ อ่านไปยิ้มไปมากกว่า

เนื้อเรื่อง ดูจะเป็นวงจรยังไงไม่ทราบ
ป่วย-หายดี-จี๋จ๋า-ป่วย-หายดี-จี๋จ๋า กลับไปกลับมา
น่าเสียดายที่ซุนฮ่าวดูจะรู้รับกับใจตนเองเร็วไปหน่อย
เปิดเผยความรักความเสน่หากันตั้งแต่ครึ่งเล่มแรกทำให้อารมณ์สะดุดไป
เนื่องจากไม่มีเหตุการณ์ที่เสี่ยวเฉ่าจะสามารถพลิกใจอีกฝ่ายได้ดุจพลิกฝ่ามือ
ดีแต่นอนป่วย ใช้ความหน้าสวยตาใสใจซื่อเป็นทุนเดิม
ในการเรียกความรักความสงสารทำให้เกิดจุดเปลี่ยนของเนื้อเรื่อง
ทั้งที่ตอนต้นค่อนข้างเริ่มมาได้อย่างดีทีเดียว มีการปูพื้นเพของซุนฮ่าวชัดเจน
ในเรื่องความรักที่บิดเบี้ยวของพ่อแม่หรือรอยยิ้มปริศนาตอนแม่ตาย
ถ้าผู้แต่งคิดจะเล่นประเด็นนี้ต่อไปอีกสักครึ่งเล่ม
อัดอารมณ์บิวเบี้ยวให้ซุนฮ่าวที่เล่นพิเรนได้ถูกใจเข้าด้วยแล้ว
คราวนี้คนอ่านได้น้ำตาเผาะผอยกันแน่นอน

เคะ ในเรื่องนี้ อ่อนละลายยิ่งกว่า เต้าหู้ วนิลา วิปครีม สารพัดของอ่อนนุ่ม
เหมือนกับปั้นน้ำขึ้นมาเป็นตัวอย่างไรอย่างนั้น
ถ้าไม่มีความบริสุทธิ์ดุจหิมะอย่างที่ในเรื่องว่า
คงไม่สามารถเห็นเสี่ยวเฉ่าเป็นอย่างอื่นได้นอกจากตัวนิ่มน่ารำคาญ --"--
แต่เมื่อในเรื่องให้มองเขาอย่างเด็กเสียแล้ว
ก็ค่อยเข้าถึงความเป็นผ้าขาวของเจ้าตัวได้สนิท
และเมื่อยกนิสัยกตัญญู อดทน ซื่อสัตย์มาประกอบ
ก็เป็นการเพิ่มมิติให้ตัวละครยิ่งขึ้นไป


ซุนฮ่าว พระเอก ในอุดมคตินี่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะคะ
การที่พี่แกกลายเป็นแมวเชื่องๆ กับเสี่ยวเฉ่าคนเดียวก็ดี เก่งไปซะทุกอย่างก็ดี
กลับไม่ใช่สิ่งทำให้ชอบพระเอกคนนี้ได้
แต่มันคือลีลาใต้ผ้าห่มต่างหาก เล่นแต่ละท่านี่ beyond imagination มาก
ยิ่งดีใหญ่ที่แม้ท่วงท่าจะล้ำแต่ก็เป็นสิ่งที่เอาไปลองได้(!?)
ถ้ามีฉาก -ปิ๊บ- ให้เล่นอีกสักสิบฉาก
พี่ฮ่าวแกก็คงหาของแปลกมาให้ดูได้อีกเป็นสิบฉากเช่นกันความมั่นคง
ภายในจิตใจก็น่าชื่นชมมากค่ะ ไม่ยอมแพ้โรคร้าย ไม่ยอมแพ้ชะตากรรม
แม้จะเสียดาย แต่ไม่ย่อท้อที่จะเริ่มใหม่
เป็นองค์ประกอบที่สมกับความเป็นคนของอดีตมากเลย
จับไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้ Johny Walker ได้สบาย -- --+

ความคิดระหว่างสองคนตอนท้าย
ที่ว่าชาติหน้าเกิดมาคู่กัน จะมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองนั้น
ก็เหมือนกับความรักคือร้อยด้ายเข้าเข็ม
ด้ายที่เกิดจากการรวมด้ายเล็กๆ ทั้งหลายเข้าด้วยกัน
จะเป็นความห่วงใย ทะนุถนอมเอาใจใส่ การยอมรับ เผชิญทุกข์สุขร่วม
มาผูกพันกันกลายเป็นสายด้ายก็ดี
มีความมุ่งหมายเดียวกันคือรักและให้เกียรติตลอดไป
อันเกิดจากความรู้สึกล้วนๆไม่ได้ชักนำเอากำแพงอคติที่มนุษย์สร้างขึ้น
ว่าต้องเป็นชายคู่หญิงเท่านั้นมาร่วมด้วย

ด้าน บทอัศจรรย์ นี่สนุกจนแสบๆ คันๆ ได้อารมณ์ดีทีเดียว
อดนึกไม่ได้เลยว่าถ้าเป็นเมืองไทยคงได้เอา เงาะ ชมพู่ มังคุดมาเล่นกันแล้วจ
ะสนุกจักจี้ขนาดไหน นี่ถ้าคุณชายซุนมาอยู่ในเมืองฟ้าอมรตอนปัจจุบัน
กิจการภายในตระกูลซุนคงกลายเป็นขายส่ง-ขายปลีก
ของเล่นผู้ใหญ่กันเจริญรุ่งเรืองไป

ส่วนที่เห็นว่าคู่พระ-นางดูมีมิตินี่ ต้องค่อยๆ เก็บรายละเอียดหน่อยค่ะ
ถ้าอ่านผ่านๆ แล้วอาจจะเห็นว่าเป็นแค่รักกันเฉพาะหน้าอย่างที่ว่าจริงๆ
แต่พอลองเอาพฤติกรรมมาเรียงกันเป็นเหตุการณ์ดู
โอ้โห แอบเอาม่านไหม (การดำเนินเรื่องต่างๆ) มาคลุมทับไว้ได้สวยงามทีเดียว
(หรือบางทีอาจจะคลุมมิดไปจนเรื่องกลายเป็นดูธรรมดาก็ได้นะคะ ^^")

ที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็น ตอนพิเศษท้ายเรื่อง ของอันหลันกับถังเซิง
ทั้งในด้านความสัมพันธ์และบุคลิกของตัวละคร
แม้จะน่าหัวเราะกับความไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอของทั้งคู่
แต่ก็ได้ยืนยันให้เห็นว่า
การตกหลุมรักกับคนคนเดิมถึงสองครั้งสองครานั้นสามารถเป็นไปได้
และระยะเวลาก็ไม่ได้แยกหนทางที่เราเดินให้ห่างกันเสมอไป

ทั้ง อันหลันและถังเซิง นั้นก็ต่างคนต่างเด่นคนละด้าน
ทำอาชีพที่ทั้งอิงกันและตรงกันข้ามกันซึ่งสามารถก่อประเด็นน่าสนใจ
และสร้างสีสันให้เนื้อเรื่องได้
อีกทั้งการที่อันหลันนั้นแอบดื้อทว่ายอมรับใจตัวเองไปพร้อมๆ กัน
ก็ไม่ทำให้เนื้อเรื่องที่เกิดจากสองคนนี้กลายเป็นพ่อแง่แม่งอนธรรมดาๆ ไปเสีย

ฮิฯ กะว่าถ้าเกิดมีซีรี่ส์ของคู่นี้ออกมาจริง
และออกมาก่อนหิมะแดงมีหวังได้ซื้อหิมะแดงชนิด 450 อ่านจนคุ้มอยู่ 50 บาทแหงๆ



--------------------------

ด้านจัดทำ

เห็นว่าเป็นงานแรกของ Denkiru

ประทับใจตั้งแต่ได้หนังสือมาเลยค่ะ กลิ่นของความ 'ตั้งใจทำ' ลอยอวลออกมาชัด
เรื่องตัดคำ พิมพ์ผิดนี่ยังไม่เห็น แต่ที่พบได้ประมาณ 10 จุดคือ

การสลับที่ของคำเช่น ฉันกินข้าว กลายเป็น ฉันข้าวกิน
และสะดุดตาโดนใจที่สุดในเล่มคือ เขียนโดยใช้ภาษาไทย
กระทั่งในส่วนที่ชี้แจงชื่อเรื่อง,ผู้แปล และคำว่า 'งานศิลป์'ได้ฟังแล้วเพราะจริงๆ
ปัดคำว่า artwork ตกขอบไปเลย
และ 'ถ้อยแถลง' ก็ดูหรูไฮกว่า postscript มากมาย
แต่ว่า...ดอกไม้ประดับมุมของทุกหน้า
ค่อนข้างขัดขวางการอ่านได้ระดับหนึ่งทีเดียว
ถ้าจะทำจริงๆ ควรเข้มน้อยจนแทบจางเลยจะเหมาะที่สุด
ดังนั้นคราวหน้าถ้าจะใส่ช่วยฟอกสีออกอีกนิดก็ดีนะคะ
ตัวรูปเล่มเกือบได้มาตรฐานแล้วค่ะ ตกไปอย่างเดียวคือขอบประดับสีเข้มที่ว่า

ในด้าน ฟอนต์ นี่คงเถียงกันไม่ได้ว่า
ฟอนต์ตัวเหลี่ยมแบบนี้มีไว้เพื่อจีนกำลังภายในโดยเฉพาะ
แต่ที่ชอบคือพื้นหลังของคำว่า เล่มต้น-เล่มจบ ที่ใช้วงกลมสีแดง
เหมาะเจาะกับปกเล่มจบที่มีละอองเลือดอยู่ในภาพ
เหมือนจะแสดงถึงความเข้มข้นที่มีในเรื่อง
(แต่อันที่จริงไม่ค่อยมีอะไรในกอไผ่ ^^")

การ์ตูนล้อข้างหลัง ช่างเหมาะเจาะกับการที่เสี่ยวเฉ่าเป็นกระต่ายมากเลยค่ะ

ยิ่งมาดูที่หน้าปกแล้ว ทั้งผิวขาว ตาแดง ปากแดง ยิ่งเหมือนกระต่ายเข้าไปทุกที
ภาพประกอบ ของคนจีนที่วาดแนวนี้ดูจะมีเสน่ห์ของพู่กันอย่างประหลาด
เส้นที่เหมือนไม่มีเส้น ดูจะใช้สีแทนเส้นเป็นส่วนมาก
สามารถสร้างมิติให้รูปภาพได้น่าพิศวง
และนักวาดจีนหลายท่านที่นิยมวาดเส้นแบบนี้
ก็สามารถรังสรรค์ได้ครบถ้วนถึงกลิ่นอายของจ้าวตะวันออกยิ่งนัก
น่าเสียดายคิดว่าจะมีภาพประกอบสวยๆ ให้ดูทั้งเล่ม
กลับได้เห็นแค่คู่พระ-นาง ใจนี้อยากเห็นอันหลันกับถังเซิงเป็นที่สุด >0<

แต่พูดถึงเสี่ยวเฉ่าแล้ว เล่มต้น-เล่มจบนี่ผิดกันอย่างกับเด็กน้อย-นางพญา
ในขณะที่ซุนห้าว ยังคมเข้มได้ที่ไม่มีเปลี่ยน