หิมะแดง
( 絳雪 )
Story : อวี้หยาง
Illustrator : อี้จิ้ง
Illustrator : อี้จิ้ง
Status : Thai Version by DKR
Price : 450 Baht / pack
Price : 450 Baht / pack
--------------------------
ด้านเนื้อเรื่อง
อันที่จริงเห็นปกกับเนื้อเรื่องบทแรกๆ แล้ว
ก็หวังว่าเล่มนี้จะบู๊กันดุเดือด ชิงไหวชิงพริบกันสนั่น
ทำร้ายหัวใจชนิดฉีกกระชากขาดกระจุย
(ยิ่งแอบได้ยินสปอยล์เกี่ยวกับสาลี่มาด้วย อิอิ)
ก่อนจะมานั่งสมานแผลกันในตอนท้าย
กลับกลายเป็นสู้กันพอให้ได้ขยับตัวเสียบ้าง ที่เหลือหวานอีก 70%
นับว่าผู้แต่งเขียนบทพลอดรักกันได้ดีทีเดียว เพราะแม้จะมีเยอะ(มวากกก)
แต่ก็ไม่ได้เลี่ยนหวานน้ำตาลอายเหมือนอีกหลายเรื่อง
ออกแนวน่าอ่านและอ่านได้เรื่อยๆ อ่านไปยิ้มไปมากกว่า
เนื้อเรื่อง ดูจะเป็นวงจรยังไงไม่ทราบ
ป่วย-หายดี-จี๋จ๋า-ป่วย-หายดี-จี๋จ๋า กลับไปกลับมา
น่าเสียดายที่ซุนฮ่าวดูจะรู้รับกับใจตนเองเร็วไปหน่อย
เปิดเผยความรักความเสน่หากันตั้งแต่ครึ่งเล่มแรกทำให้อารมณ์สะดุดไป
เนื่องจากไม่มีเหตุการณ์ที่เสี่ยวเฉ่าจะสามารถพลิกใจอีกฝ่ายได้ดุจพลิกฝ่ามือ
ดีแต่นอนป่วย ใช้ความหน้าสวยตาใสใจซื่อเป็นทุนเดิม
ในการเรียกความรักความสงสารทำให้เกิดจุดเปลี่ยนของเนื้อเรื่อง
ทั้งที่ตอนต้นค่อนข้างเริ่มมาได้อย่างดีทีเดียว มีการปูพื้นเพของซุนฮ่าวชัดเจน
ในเรื่องความรักที่บิดเบี้ยวของพ่อแม่หรือรอยยิ้มปริศนาตอนแม่ตาย
ถ้าผู้แต่งคิดจะเล่นประเด็นนี้ต่อไปอีกสักครึ่งเล่ม
อัดอารมณ์บิวเบี้ยวให้ซุนฮ่าวที่เล่นพิเรนได้ถูกใจเข้าด้วยแล้ว
คราวนี้คนอ่านได้น้ำตาเผาะผอยกันแน่นอน
เคะ ในเรื่องนี้ อ่อนละลายยิ่งกว่า เต้าหู้ วนิลา วิปครีม สารพัดของอ่อนนุ่ม
เหมือนกับปั้นน้ำขึ้นมาเป็นตัวอย่างไรอย่างนั้น
ถ้าไม่มีความบริสุทธิ์ดุจหิมะอย่างที่ในเรื่องว่า
คงไม่สามารถเห็นเสี่ยวเฉ่าเป็นอย่างอื่นได้นอกจากตัวนิ่มน่ารำคาญ --"--
แต่เมื่อในเรื่องให้มองเขาอย่างเด็กเสียแล้ว
ก็ค่อยเข้าถึงความเป็นผ้าขาวของเจ้าตัวได้สนิท
และเมื่อยกนิสัยกตัญญู อดทน ซื่อสัตย์มาประกอบ
ก็เป็นการเพิ่มมิติให้ตัวละครยิ่งขึ้นไป
ซุนฮ่าว พระเอก ในอุดมคตินี่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะคะ
การที่พี่แกกลายเป็นแมวเชื่องๆ กับเสี่ยวเฉ่าคนเดียวก็ดี เก่งไปซะทุกอย่างก็ดี
กลับไม่ใช่สิ่งทำให้ชอบพระเอกคนนี้ได้
แต่มันคือลีลาใต้ผ้าห่มต่างหาก เล่นแต่ละท่านี่ beyond imagination มาก
ยิ่งดีใหญ่ที่แม้ท่วงท่าจะล้ำแต่ก็เป็นสิ่งที่เอาไปลองได้(!?)
ถ้ามีฉาก -ปิ๊บ- ให้เล่นอีกสักสิบฉาก
พี่ฮ่าวแกก็คงหาของแปลกมาให้ดูได้อีกเป็นสิบฉากเช่นกันความมั่นคง
ภายในจิตใจก็น่าชื่นชมมากค่ะ ไม่ยอมแพ้โรคร้าย ไม่ยอมแพ้ชะตากรรม
แม้จะเสียดาย แต่ไม่ย่อท้อที่จะเริ่มใหม่
เป็นองค์ประกอบที่สมกับความเป็นคนของอดีตมากเลย
จับไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้ Johny Walker ได้สบาย -- --+
ความคิดระหว่างสองคนตอนท้าย
ที่ว่าชาติหน้าเกิดมาคู่กัน จะมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองนั้น
ก็เหมือนกับความรักคือร้อยด้ายเข้าเข็ม
ด้ายที่เกิดจากการรวมด้ายเล็กๆ ทั้งหลายเข้าด้วยกัน
จะเป็นความห่วงใย ทะนุถนอมเอาใจใส่ การยอมรับ เผชิญทุกข์สุขร่วม
มาผูกพันกันกลายเป็นสายด้ายก็ดี
มีความมุ่งหมายเดียวกันคือรักและให้เกียรติตลอดไป
อันเกิดจากความรู้สึกล้วนๆไม่ได้ชักนำเอากำแพงอคติที่มนุษย์สร้างขึ้น
ว่าต้องเป็นชายคู่หญิงเท่านั้นมาร่วมด้วย
ด้าน บทอัศจรรย์ นี่สนุกจนแสบๆ คันๆ ได้อารมณ์ดีทีเดียว
อดนึกไม่ได้เลยว่าถ้าเป็นเมืองไทยคงได้เอา เงาะ ชมพู่ มังคุดมาเล่นกันแล้วจ
ะสนุกจักจี้ขนาดไหน นี่ถ้าคุณชายซุนมาอยู่ในเมืองฟ้าอมรตอนปัจจุบัน
กิจการภายในตระกูลซุนคงกลายเป็นขายส่ง-ขายปลีก
ของเล่นผู้ใหญ่กันเจริญรุ่งเรืองไป
ส่วนที่เห็นว่าคู่พระ-นางดูมีมิตินี่ ต้องค่อยๆ เก็บรายละเอียดหน่อยค่ะ
ถ้าอ่านผ่านๆ แล้วอาจจะเห็นว่าเป็นแค่รักกันเฉพาะหน้าอย่างที่ว่าจริงๆ
แต่พอลองเอาพฤติกรรมมาเรียงกันเป็นเหตุการณ์ดู
โอ้โห แอบเอาม่านไหม (การดำเนินเรื่องต่างๆ) มาคลุมทับไว้ได้สวยงามทีเดียว
(หรือบางทีอาจจะคลุมมิดไปจนเรื่องกลายเป็นดูธรรมดาก็ได้นะคะ ^^")
ที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็น ตอนพิเศษท้ายเรื่อง ของอันหลันกับถังเซิง
ทั้งในด้านความสัมพันธ์และบุคลิกของตัวละคร
แม้จะน่าหัวเราะกับความไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอของทั้งคู่
แต่ก็ได้ยืนยันให้เห็นว่า
การตกหลุมรักกับคนคนเดิมถึงสองครั้งสองครานั้นสามารถเป็นไปได้
และระยะเวลาก็ไม่ได้แยกหนทางที่เราเดินให้ห่างกันเสมอไป
ทั้ง อันหลันและถังเซิง นั้นก็ต่างคนต่างเด่นคนละด้าน
ทำอาชีพที่ทั้งอิงกันและตรงกันข้ามกันซึ่งสามารถก่อประเด็นน่าสนใจ
และสร้างสีสันให้เนื้อเรื่องได้
อีกทั้งการที่อันหลันนั้นแอบดื้อทว่ายอมรับใจตัวเองไปพร้อมๆ กัน
ก็ไม่ทำให้เนื้อเรื่องที่เกิดจากสองคนนี้กลายเป็นพ่อแง่แม่งอนธรรมดาๆ ไปเสีย
ฮิฯ กะว่าถ้าเกิดมีซีรี่ส์ของคู่นี้ออกมาจริง
และออกมาก่อนหิมะแดงมีหวังได้ซื้อหิมะแดงชนิด 450 อ่านจนคุ้มอยู่ 50 บาทแหงๆ
--------------------------
ด้านจัดทำ
เห็นว่าเป็นงานแรกของ Denkiru
ประทับใจตั้งแต่ได้หนังสือมาเลยค่ะ กลิ่นของความ 'ตั้งใจทำ' ลอยอวลออกมาชัด
เรื่องตัดคำ พิมพ์ผิดนี่ยังไม่เห็น แต่ที่พบได้ประมาณ 10 จุดคือ
การสลับที่ของคำเช่น ฉันกินข้าว กลายเป็น ฉันข้าวกิน
และสะดุดตาโดนใจที่สุดในเล่มคือ เขียนโดยใช้ภาษาไทย
กระทั่งในส่วนที่ชี้แจงชื่อเรื่อง,ผู้แปล และคำว่า 'งานศิลป์'ได้ฟังแล้วเพราะจริงๆ
ปัดคำว่า artwork ตกขอบไปเลย
และ 'ถ้อยแถลง' ก็ดูหรูไฮกว่า postscript มากมาย
แต่ว่า...ดอกไม้ประดับมุมของทุกหน้า
ค่อนข้างขัดขวางการอ่านได้ระดับหนึ่งทีเดียว
ถ้าจะทำจริงๆ ควรเข้มน้อยจนแทบจางเลยจะเหมาะที่สุด
ดังนั้นคราวหน้าถ้าจะใส่ช่วยฟอกสีออกอีกนิดก็ดีนะคะ
ตัวรูปเล่มเกือบได้มาตรฐานแล้วค่ะ ตกไปอย่างเดียวคือขอบประดับสีเข้มที่ว่า
ในด้าน ฟอนต์ นี่คงเถียงกันไม่ได้ว่า
ฟอนต์ตัวเหลี่ยมแบบนี้มีไว้เพื่อจีนกำลังภายในโดยเฉพาะ
แต่ที่ชอบคือพื้นหลังของคำว่า เล่มต้น-เล่มจบ ที่ใช้วงกลมสีแดง
เหมาะเจาะกับปกเล่มจบที่มีละอองเลือดอยู่ในภาพ
เหมือนจะแสดงถึงความเข้มข้นที่มีในเรื่อง
(แต่อันที่จริงไม่ค่อยมีอะไรในกอไผ่ ^^")
การ์ตูนล้อข้างหลัง ช่างเหมาะเจาะกับการที่เสี่ยวเฉ่าเป็นกระต่ายมากเลยค่ะ
ยิ่งมาดูที่หน้าปกแล้ว ทั้งผิวขาว ตาแดง ปากแดง ยิ่งเหมือนกระต่ายเข้าไปทุกที
ภาพประกอบ ของคนจีนที่วาดแนวนี้ดูจะมีเสน่ห์ของพู่กันอย่างประหลาด
เส้นที่เหมือนไม่มีเส้น ดูจะใช้สีแทนเส้นเป็นส่วนมาก
สามารถสร้างมิติให้รูปภาพได้น่าพิศวง
และนักวาดจีนหลายท่านที่นิยมวาดเส้นแบบนี้
ก็สามารถรังสรรค์ได้ครบถ้วนถึงกลิ่นอายของจ้าวตะวันออกยิ่งนัก
น่าเสียดายคิดว่าจะมีภาพประกอบสวยๆ ให้ดูทั้งเล่ม
กลับได้เห็นแค่คู่พระ-นาง ใจนี้อยากเห็นอันหลันกับถังเซิงเป็นที่สุด >0<
แต่พูดถึงเสี่ยวเฉ่าแล้ว เล่มต้น-เล่มจบนี่ผิดกันอย่างกับเด็กน้อย-นางพญา
ในขณะที่ซุนห้าว ยังคมเข้มได้ที่ไม่มีเปลี่ยน
สวัสดีค่ะ
ReplyDeleteอ่านบล๊อคพี่มานานแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขียนคอมเม้น ^^
นิยายหลายเรื่องที่เราซื้อมาอ่าน ก็เป็นเพราะได้อ่านรีวิวจากไซต์นี้แหละค่ะ
ขอบคุณนะคะ ที่แบ่งปันประสบการณ์การอ่านให้กัน
ขอบคุณจริงๆค่ะ ^__^
plummie
พึ่งมาเจอบล็อคนี้ เพราะหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่พอดี ๕๕
ReplyDeleteจะติดตามต่อไปนค่ะ :))
ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ ^^ ขออภัยที่ไม่ได้อัพเดทเลย แบบว่าดองบล็อคกันข้ามปีทีเดียว
ReplyDeleteฝากเนื้อฝากตัวด้วยคนคะ
ReplyDelete